ฮุน เซน เผยโควิดกัมพูชาเบาลงแล้ว หลังระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนกว่า 6.7 ล้านคน

สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศเริ่มลดลงแล้ว หลังจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 67.4% ของประชากรกลุ่มเป้าหมาย 10 ล้านคน

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา เปิดเผยว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เริ่มลดลงแล้ว เมื่อเทียบกับช่วงการระบาดสูงสุดปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการติดเชื้อในโรงงานต่างๆ มีอัตราลดลง เนื่องจากรัฐบาลระดมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้มีชาวกัมพูชาได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 6.74 ล้านราย คิดเป็น 6.74% ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยผู้ใหญ่ 10 ล้านคนในประเทศ

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กัมพูชาเพิ่งได้รับมอบวัคซีนแอสตราเซเนกา 330,000 โดส จากญี่ปุ่นและได้รับวัคซีนซิโนฟาร์ม 1 ล้านโดสจากจีน

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา รายงานพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 778 ราย มีผู้เสียชีวิต 22 ศพ ส่งผลให้กัมพูชามีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 73,701 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,305 ศพ

กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาระบุว่า มีการติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเพียง 303 ราย ถือเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อท้องถิ่นที่ลดลงอย่างมากจากช่วงการแพร่ระบาดสูงสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 991 ราย แต่อย่างไรก็ตาม พบผู้ป่วยจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อยู่ที่ 475 ราย มากกว่าวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 139 ราย

ทางการกัมพูชาระบุว่าที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ติดเชื้อในท้องถิ่นลดลง เป็นผลมาจากอัตราฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น ขณะจำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในไทยเดินทางกลับประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาเริ่มแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. โดยมีจีนเป็นผู้จัดหาวัคซีนรายหลัก โดยจนถึงขณะนี้มีประชาชนฉีดวัคซีนแล้ว 6.74 ล้านคน หรือร้อยละ 67.4 ของประชากรวัยผู้ใหญ่กลุ่มเป้าหมาย 10 ล้านคน ซึ่งกัมพูชาตั้งเป้าฉีดให้ครบภายในเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายนเป็นอย่างช้าที่สุด.